การตั้งชื่อ Facebook Profile ควรขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และภาพลักษณ์ที่ต้องการสื่อออกไป เราสามารถแบ่งแนวทางการตั้งชื่อออกเป็นหมวดหมู่ดังนี้
1. ชื่อจริง (Personal Branding)
✅ เหมาะสำหรับ: คนทั่วไป, ผู้ที่ต้องการใช้ Facebook ส่วนตัว, ผู้มีอิทธิพล (Influencer), นักธุรกิจ
- ใช้ชื่อจริง-นามสกุล หรือชื่อเล่น
- ตัวอย่าง:
- Somchai Tanakul
- Aommy Jirapat
- Natty Nattakarn
🔹 เคล็ดลับ:
- ใช้ชื่อที่อ่านง่าย ไม่ซับซ้อน
- หลีกเลี่ยงการใส่อักขระพิเศษ เช่น !!, *, @
- หากชื่อซ้ำ อาจเติมตัวอักษรกลาง เช่น Somchai.T หรือ Somchai_Official
2. ชื่อที่บ่งบอกตัวตน (Creative Identity)
✅ เหมาะสำหรับ: นักสร้างคอนเทนต์, นักร้อง, ศิลปิน, ยูทูบเบอร์
- เป็นชื่อที่สื่อถึงตัวเอง มีเอกลักษณ์
- ตัวอย่าง:
- ChefPloy – ครัวสนุกสนาน
- Pond the Explorer (นักเดินทาง)
- Meen Melody (นักร้อง)
🔹 เคล็ดลับ:
- ใช้คำที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ทำ เช่น Travel, Cooking, Music
- สามารถเติมคำภาษาอังกฤษหรือไทยให้จำง่าย
3. ชื่อแนวธุรกิจหรือเพจส่วนตัว (Professional & Business Name)
✅ เหมาะสำหรับ: คนทำธุรกิจ, ฟรีแลนซ์, ที่ปรึกษา
- ใช้ชื่อจริงร่วมกับสายงาน หรือแบรนด์ของตัวเอง
- ตัวอย่าง:
- Patty Digital Coach
- Thanawat Photographer
- Mint Beauty Studio
🔹 เคล็ดลับ:
- ใช้คำที่บ่งบอกอาชีพ เช่น Coach, Creator, Writer
- ตั้งให้ดูน่าเชื่อถือ และค้นหาเจอง่าย
4. ชื่อเล่น + ชื่อแปลก ๆ (Casual & Fun)
✅ เหมาะสำหรับ: ใช้เล่น ๆ, ไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน
- อาจเป็นชื่อเล่น + คำสนุก ๆ
- ตัวอย่าง:
- PangPond กินเก่งจัง
- Nui สายฮา
- ZeeZaa สายดาร์ค
🔹 เคล็ดลับ:
- ถ้าเป็นสายตลกหรือครีเอทีฟ ใช้คำที่ทำให้คนจำง่าย
- หลีกเลี่ยงคำหยาบหรือสุ่มเสี่ยง
ข้อควรเลี่ยงในการตั้งชื่อ Facebook
❌ ใช้ชื่อปลอมที่ดูไม่น่าเชื่อถือ เช่น “แซนวิช ไส้ทะลัก”
❌ ใช้สัญลักษณ์หรืออักขระพิเศษมากเกินไป เช่น “J@ne_Lov3r”
❌ ใช้ชื่อที่มีความหมายเชิงลบ เช่น “จอมขี้เกียจ”
❌ ตั้งชื่อที่ซับซ้อนและยาวเกินไป
สรุป
📌 ถ้าใช้ส่วนตัว → ใช้ชื่อจริง-นามสกุล
📌 ถ้าเป็นครีเอเตอร์ → ใส่ชื่อเล่น + จุดเด่นของตัวเอง
📌 ถ้าทำธุรกิจ → ใช้ชื่อจริง + อาชีพ หรือชื่อแบรนด์
📌 ถ้าสายสนุก → ใช้ชื่อเล่น + คำที่สร้างเอกลักษณ์
✨ เลือกให้เหมาะกับตัวเอง เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดี และค้นหาเจอง่าย!